บริหารต้นทุนการผลิตด้วยเทคนิค "เลิก-ลด-เปลี่ยน" (ตอนที่ 3)

บริหารต้นทุนการผลิตด้วยเทคนิค "เลิก-ลด-เปลี่ยน" (ตอนที่ 3)

ได้กล่าวถึงการใช้เทคนิคไปแล้ว 2 เทคนิค นั้นคือ “เลิก” และ “ลด” แต่ถ้าหากไม่ว่าจะ เลิก หรือ ลด ก็ยังทำไม่ได้ ก็ลองใช้ไม้ตายสุดท้าย คือ “เปลี่ยน” คือ ลองถามตัวเองดูอีกครั้งว่า “งานที่ทำอยู่นี้ สามารถเปลี่ยนวิธีไปทำแบบอื่นที่ง่ายและสะดวกกว่านี้ได้มั้ย?” ถ้าได้ แม้เราจะยังต้องทำงานนั้นๆ อยู่ แต่ก็เชื่อได้ว่า เราจะทำมันได้ด้วยวิธีใหม่ ที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิม 

ยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการ A (อีกแล้ว) ต้องทำพาร์ทโลหะตัวหนึ่งซึ่งไม่สามารถส่งให้ผู้รับเหมาข้างนอกทำได้ พาร์ทนี้มีขั้นตอนการทำหลายอย่าง ทั้งเจาะ กัดมิลลิ่ง EDM แล้วก็ประกอบ ซึ่งปัจจุบัน A ได้วางขั้นตอนการเจาะไว้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะต้องกำหนดตำแหน่งกับพาร์ทอีกชิ้นหนึ่งให้พอดีก่อน ทำให้ขั้นตอนการทำงานของ A มีเวลาสูญเสียพอสมควรจากการย้ายจากเครื่องจักรหนึ่ง ไปอีกเครื่องจักรหนึ่ง เพราะนอกจากระยะทางระหว่างแต่ละเครื่องจะไกลกันแล้ว ยังต้องสูญเสียเวลาไปกับการถอด จับ ประกอบ เซ็ทตำแหน่งศูนย์ ใหม่ทุกครั้ง 

หาก A เลือกที่จะปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานใหม่ ให้ชิ้นงานนี้ถูกเจาะสำเร็จบนเครื่องมิลลิ่งเลย (โดยการกำหนดให้เครื่องเปลี่ยน Tool) ง่ายๆ แค่นี้ A ก็จะลดเวลาสูญเปล่าลงไปได้มโหฬาร แม้ว่ายังต้องทำงานนั้นๆ อยู่ก็ตาม

ถึงตรงนี้จะเห็นแล้วว่า ไคเซ็น เป็นเทคนิคการมองและคิดแก้ไขปัญหาโดยเริ่มจากจุดเล็กด้วยวิธีตั้งคำถามง่ายๆ แต่ผลลัพธ์ของมันไม่ได้เล็กตามวิธีคิดเลย และการประยุกต์ใช้ไคเซ็นก็ไม่จำกัดเฉพาะการทำงานเท่านั้น แต่เราสามารถนำกิจกรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น การขับรถจากที่บ้านมาทำงานที่โรงงาน สมมติว่าเดิม A ใช้เส้นทางหลักสายปกติมาโดยตลอด ปัญหาที่อาจเจอก็คือ รถติดมากเพราะเป็นถนนเมนหลักที่ใครๆ ก็ใช้ ทำให้เสียเวลาเดินทาง และเปลืองน้ำมันมาก ถ้าลองประยุกต์เทคนิคไคเซ็นเข้ามา คือ “เปลี่ยน” A อาจสามารถเดินทางด้วยเส้นทางใหม่มาใช้ทางแทน แม้บางทีอาจจะอ้อมแต่ถ้ารถไม่ติด ก็ทำให้ประหยัดเวลาเดินทางได้มากขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย

ลองหาทางนำไปปรับใช้ดูกันน่ะครับ